หน่วยที่4

16.บัลแกเรีย
          ภูมิประเทศของบัลแกเรียส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์มาก ดินแดนนี้มีภูมิประเทศถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยเทือกเขาบัลข่านที่มีความยาวถึง 750 กิโลเมตรกั้นกลางบรรดาสาวแก่แม่ม่ายแต่งกายตามแบบพื้นบ้านดั้งเดิม มาลากนิติภูมิให้ออกไปร้องรำฮัมเพลง นับสาวๆ ได้ 10 ท่าน แต่เมื่อเอาอายุทั้ง 10 สาวมารวมกันนี่ ก็จะได้เกือบประมาณหนึ่งพันปีทีเดียวบัลแกเรียมีฐานะเป็นรัฐชาติในปี พ.ศ. 1224 ประกอบขึ้นจากชนชาติสลาฟและชนชาติบัลการ์ (ชนชาติยูเครนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในคาบสมุทรบอลข่าน) ตกอยู่ภายใต้อาณาจักรไบแซนไทน์ในปี พ.ศ. 1561 และต่อมาตกอยู่ภายใต้จักรวรรดิออตโตมาน 5 ศตวรรษ จากปี พ.ศ. 1939 จนถึงปี พ.ศ. 2421 จึงได้รับการยอมรับในฐานะประเทศเอกราชในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ปกครองโดยราชวงศ์ Sax-Coberge Gotha โดยมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับจักรวรรดิรัสเซีย บัลแกเรียเข้าร่วมในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งกับฝ่ายอักษะ และเมื่อเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงถูกกำหนดโดยฝ่ายสัมพันธมิตรให้สหภาพโซเวียตปกครอง บัลแกเรียปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา และเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ระบอบประชาธิปไตยเมื่อปี พ.ศ. 2533



17.ออสเตรเลีย
                  ชนชั้นในสังคมของออสเตรเลียจะแสดงความเคารพต่อเมื่อผู้นั้นมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง เป็นคนถ่อมตัว ในความสำเร็จ ผู้ชายและผู้หญิงมักทักทายด้วยการจับมือและแสดงออกด้านพิธีการ และประเพณ ีโบราณของ การแต่ง การแบบทั่วไป และโดยเฉพาะสถานศึกษา ไม่มีการกำหนดให้แต่งเครื่องแบบ การแต่งกายในที่ทำงาน มักแต่งแบบเรียบร้อยและสุภาพ
ชาวพื้นเมืองเดิมของออสเตรเลียเป็นชาวพื้นเมืองอะบอริจิ้น ปกครองประเทศมายาวนานกว่า 60,000 ปี ซึ่งสร้าง วัฒนธรรมต่อโลกยาวนานที่สุด นิยมอยู่แบบครอบครัว มีหลากหลายภาษา และม ีผู้อพยพมาจาก ยุโรปและเอเซีย ป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ ค . ศ . 1850 – 1859 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทำให้เกิดความหลากหลายของวัฒนธรรมในออสเตรเลีย 




18.เคอร์กิซถาน



              บูคารา (Bukhara) เป็นเมืองโอเอซิสท่ามกลางทะเลทราย  เป็นจุดศูนย์กลางสำคัญทางการค้าบนเส้นทางสายแพรไหม เป็นจุดแวะพักของกองคาราวาน  เป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลามในเอเชียกลาง  เป็นเมืองมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้  บูคาร่าเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ยังมีลมหายใจ  ผู้คนที่นี่ยังมีวิถีชีวิตไม่แตกต่างจากเมื่อหลายร้อยปีก่อน บรรยากาศในเขตเมืองเก่า ให้ความรู้สึกย้อนยุคเหมือนท่ามกลางขบวนคาราวาน ทั้งสภาพบ้านเรือน ร้านค้า การแต่งกายของผู้คน  ราวกับว่านาฬิกาได้หยุดเดินเมื่อห้าร้อยปีก่อน ณ นครแห่งนี้




19.ประเทศเปรู


มีชื่อทางการคือ สาธารณรัฐเปรู (República del Perú) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ มีพรมแดนทางทิศเหนือติดกับประเทศเอกวาดอร์และประเทศโคลอมเบีย ทิศตะวันออกติดกับประเทศบราซิลและประเทศโบลิเวีย ทางทิศใต้ติดกับประเทศชิลี และทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก
ประเทศเปรูเป็นที่ตั้งของอารยธรรมการัล ซึ่งเป็นอารยธรรมเก่าแก่อันหนึ่งของโลก และอาณาจักรอินคา จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาก่อนยุคโคลัมบัส ต่อมาภูมิภาคนี้ตกเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิสเปน และได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2364
ชื่อเปรูมาจากคำว่า "บีรู" (Birú) ซึ่งเป็นชื่อของผู้ปกครองท้องถิ่นบริเวณอ่าวซานมีเกลในปานามา โดยบริเวณนี้เป็นจุดใต้สุดที่ชาวยุโรปรู้จักเมื่อครั้งนักสำรวจชาวสเปนมาถึงในปี พ.ศ. 2065 ดังนั้นเมื่อฟรันซิสโก ปีซาร์โรเดินทางสำรวจต่อไปทางใต้ จึงเรียกภูมิภาคเหล่านั้นว่า บีรูหรือเปรูด้วย จักรวรรดิสเปนรับรองชื่อนี้ในปี พ.ศ. 2072 ในเอกสาร กาปีตูลาซีออนเดโตเลโด ซึ่งตั้งจังหวัดเปรูบริเวณจักรวรรดิอินคาเดิม 


20.แคนาดา
ชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกา หรือ อินเดียนแดง หรือ ชนพื้นเมืองชาวอเมริกัน (อังกฤษ: Indigenous people of the Americas หรือ Red Indian หรือ Native American) เป็นกลุ่มคนที่อาศัยในทวีปอเมริกามานานก่อนที่ชาวยุโรปจะเข้ามาอพยพย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกราก ในอดีตได้มีสงครามเกิดขึ้นมากมายในประเทศสหรัฐอเมริกา ในการแย่งชิงดินแดน การต่อสู้ รวมถึงการค้าที่เกิดขึ้นระหว่างชาวยุโรป (ชาวอเมริกันปัจจุบัน) กับชาวอินเดียนแดง
ในปัจจุบันชาวอินเดียนแดงบางกลุ่มอาศัยรวมอยู่กับชาวอเมริกันทั่วไป และบางกลุ่มได้ถูกจำกัดพื้นที่ให้อาศัยอยู่ในเขตสงวนอินเดียนแดง
คำว่าอินเดียนแดงนั้น ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Indian หรือ Native American โดยในอดีตได้ใช้คำว่า Red Indian แต่ได้เลิกใช้แล้วโดยถือว่าเป็นคำไม่สุภาพในการกล่าวถึง แบ่งออกเป็น 3 เผ่าใหญ่ ได้แก่ เผ่ามายา เผ่าแอซแทค และเผ่าอินคา

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ีที่
cherokee.exteen.com/20100220/faces-of-the-world-i